โดย มิตรแท้โชห่วย Makro
ทำเลที่ตั้ง
เป็นปัจจัยความสำเร็จอันดับแรกของร้านโชห่วย มินิมาร์ท ที่ต้องอยู่ใกล้กลุ่มเป้าหมาย ผู้ประกอบการจำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยในการเลือกที่ตั้งร้านค้าอย่างรอบคอบดังนี้
การเลือกสินค้า
ควรมีสินค้าและบริการหลายหลากตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด การเลือกจำนวนสินค้าแต่ละกลุ่มสินค้าได้อย่างเหมาะสม จะสามารถทำให้ร้านค้าได้ยอดขายและกำไรสูงสุด
1. สินค้าจำเป็น (กลุ่มสินค้าหลักเพื่อสร้างยอดขาย)
สินค้าที่ขายดีเป็นที่ต้องการของลูกค้าส่วนใหญ่ และดึงให้ลูกค้ามาซื้อของในร้าน จำเป็นต้องมีขายตลอดเวลา ได้แก่ กลุ่มสินค้าอุปโภคและบริโภค
ราคาและกำไร
มีความต่อธุรกิจค้าปลีกที่ปัจจุบันมีการแข่งขันสูง ส่วนผสมของกลุ่มสินค้าที่เราเลือกเข้ามาขายในร้านกับ การตั้งราคาขายแต่ละกลุ่มเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ร้านค้ามีผลกำไรสูงสุด(Margin Mixed) โดยคำนึงหลักพื้นฐาน ดังนี้
1. การตั้งราคาเพื่อสร้างยอดขายและผลกำไรหลักของร้าน
สินค้าที่ขายดีเป็นที่ต้องการของลูกค้าส่วนใหญ่ และดึงให้ลูกค้ามาซื้อของในร้าน จำเป็นต้องมีขายตลอดเวลา ได้แก่ กลุ่มสินค้าอุปโภคและบริโภค
2. การตั้งราคาเพื่อสร้างผลกำไรและภาพลักษณ์ความทันสมัย
กลุ่มสินค้าใหม่หรือสินค้าตามเทศกาล สามารถตั้งราคาเต็มเพื่อสร้างกำไรระยะสั้น
3. การตั้งราคาแบบสร้างความสามารถในการแข่งขัน
กลุ่มสินค้าหรือบริการเฉพาะที่ร้านใกล้เคียงไม่มี สามารถตั้งราคาสูงกว่าสินค้าปกติ เพื่อเพิ่มผลกำไรของร้านโดยรวมมากขึ้น
แผนผังร้านค้า
การวางแผนผังร้านค้าที่ดีเป็นองค์ประกอบสำคัญในการจัดการร้านค้าปลีกให้มีประสิทธิภาพ และเป็นการบริหารพื้นที่ภายในร้านให้มีประโยชน์สูงสุด เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายให้กับสินค้าทุกกลุ่มภายในร้าน
ประโยชน์ของการวางผังร้านที่ดี
- ดึงดูดลูกค้าเข้าร้านได้มากขึ้น
- เพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้าในการเลือกซื้อสินค้า
- เพิ่มโอกาสในการขายเนื่องจากลูกค้าใช้เวลาอยู่ในร้านนานขึ้น
- ลดความสูญเสียที่เกิดจากการจัดเก็บสินค้า
เทคนิค 5 ประการในการวางแผนผังร้านค้า
- ความกว้างทางเดินระหว่างชั้น ประมาณ 60-90 ซม. และความกว้างระหว่างตู้แช่กับชั้นวางควรกว้าง 90-120 ซม.
- ชั้นกลางร้านควรสูงไม่เกิน 150 ซม. และชั้นวางริมผนังควรสูง 180 ซม.
- ตำแหน่งตู้แช่ควรอยู้ด้านหลังร้าน และมองเห็นได้ชัดเจน
- แคชเชียร์ควรอยู่บริเวณที่มองเห็นได้ทั่วร้าน และมีทางเข้าออกทางเดียว
- ควรวางแผนผังร้านโดยแยกของกินออกจากของใช้
การจัดเรียงสินค้า
การจัดเรียงสินค้าที่ดี ต้องคำนึงความสะดวกสบายของลูกค้าในการเลือกซื้อสินค้าแต่ละกลุ่มต่อเนื่องกัน เป็นการใช้พื้นที่แต่ละชั้นวางให้เป็นประโยชน์ และสร้างยอดขายสูงสุดให้ร้านค้า
ประโยชน์ของการจัดเรียงสินค้าที่ดี
- เกิดควาต่อเนื่องในการเลือกซื้อสินค้า เพิ่มโอกาสในการขาย
- ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการจัดเรียง ทำให้สามารถเพิ่มสินค้าใหม่ๆเข้ามาขายในร้าน
- ทำให้ทราบอัตราการขายสินค้า เพื่อเพิ่ม-ลดจำนวนขาในการจัดเรียงให้เกิดประโยชน์และสร้างยอดขายสูงสุด
- ตรวจสอบปริมาณสินค้าคงเหลือได้ง่าย
เทคนิค 5 ประการในการจัดเรียงสินค้าที่ดี
- แบ่งสินค้าให้เป็นหมวดหมู่เดียวกัน โดยจัดเรียงลงมาในแนวดิ่ง
- จัดเรียงสินค้าสัมพันธ์และต่อเนื่องกัน
- สินค้าขายดีวางระดับสายตา และสินค้าราคาแพงควรวางใกล้แคชเชียร์
- สินค้าชิ้นเล็ก น้ำหนักเบาควรจัดเรียงด้านบน สินค้าน้ำหนักมากขนาดใหญ่ควรจัดเรียงด้านล่าง
- ไม่ควรเรียงสินค้าประเภทของใช้และสารเคมีปนกับสินค้าประเภทอาหาร
การแต่งร้านค้า
รูปลักษณ์ร้านค้าภายในและภายนอกร้านเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการสร้างความประทับใจและเชือ้เชิญ ลูกค้าเก่า ลูกค้าใหม่ มาอุดหนุนที่ร้าน นอกเหนือจากอัธยาศัยและบริการที่ดีของเจ้าของร้าน
1. การตกแต่งภายนอกร้าน
ได้แก่ การตกแต่งหน้าร้านด้วยวัสดุท้องถิ่น การทาสีร้านให้สะดุดตา การติดป้ายและวัสดุตกแต่งที่แปลกตา และการมีป้ายชื่อร้านเพื่อให้เป็นที่จดจำ เป็นต้น
2. การตกแต่งภายในร้าน
แสง > แสงสว่างภายในร้านช่วยให้ลูกค้ามองเห็นสินค้าง่ายขึ้น เสียง > ใช้เสียงเชิญชวนลูกค้า ทักทาย พูดคุยกับลูกค้า หรือเปิดดนตรีคลอเบาๆ
สะอาด > จัดร้านสวย สะอาด ทั้งสินค้า ชั้นวาง และตู้แช่
สะดวก > สามารถเลือกซื้อสินค้าได้สะดวกและต่อเนื่อง
สบาย > ทำให้ลูกค้ารู้สึกเป็นกันเอง สบายใจเมื่อซื้อสินค้าเรา
3. การตกแต่งร้านตามเทศกาล
ช่วยทำให้ลูกค้าทราบว่าร้านค้ามีสินค้าตามเทศกาลจำหน่าย ช่วยเพิ่ม ยอดขายและสร้างภาพลักษณ์ว่าร้านค้ามีสินค้าและบริการหลากหลาย ครบตามความต้องการตลอดทั้งปี
ส่งเสริมการขาย
เป็นกลยุทธ์สำคัญในการเพิ่มยอดขาย โดยจูงใจลูกค้ามาซื้อสินค้าที่ร้านให้ได้มากที่สุด สามารถทำได้ หลายรูปแบบหลายช่วงเวลา ผู้ประกอบการควรจัดรายการส่งเสริมการขายให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด และจำเป็นต้องทำสื่อโฆษณาควบคู่ด้วยทุกครั้งเพื่อให้ลูกค้าทราบข้อมูลดังกล่าว
การทำสื่อส่งเสริมการขาย “ภายนอกร้าน”
ขนาดต้องใหญ่สะดุดตา ติดอยู่หน้าร้าน ยืนอ่านได้สะดวก ทำให้ลูกค้าที่ผ่านไปมาทราบสินค้าราคาพิเศษและกิจกรรมที่ร้าน จัดขึ้น
การทำสื่อส่งเสริมการขาย “ภายในร้าน”
เป็นจุดดึงดูดสายตาและช่วยในการตัดสินใจซื้อสินค้า ณ จุดขาย การติดสื่อภายในร้าน เช่น ติดหน้าสินค้าที่จัดรายการ, ติดหน้าเคาน์เตอร์คิดเงิน เป็นต้น
สต็อกสินค้า
เป็นตัววัดความสำเร็จของร้านค้านอกจากการเพิ่มยอดขาย เพิ่มกำไร จำนวนสต็อกที่เหมาะสมจะช่วยให้ร้านค้ามีเงิน หมุนเวียนและลดต้นทุนเพิ่มกำไร
“สต็อกต่ำสุดที่เหมาะสม คือกำไรสูงสุด”
หมายถึง สินค้าที่มีไว้ขายตรงความต้องการลูกค้า ทำให้สามารถเปลี่ยนเป็น เงินได้เร็ว สต็อกมีไม่มากเกินไป ทำให้สินค้าในร้านใหม่ สด สะอาดเสมอ
เทคนิคการบริหารสต็อก
- ไม่เก็บสต็อกมากเกินไป
- สำรวจความต้องการของลูกค้าเสมอๆ
- ระบายสินค้าขายช้าและนำสินค้าใหม่มาขายแทน
- หาแหล่งซื้อสินค้าที่มีสินค้าครบ เพื่อสะดวกและประหยัดค่าเดินทาง
ความแตกต่าง
นอกจากหลักการจัดการร้านค้าพื้นฐาน ผู้ประกอบการต้องวิเคราะห์หาจุดเด่น สร้างเอกลักษณ์ให้ร้านค้าแตกต่างจากคู่แข่ง เพื่อให้ลูกค้าจดจำ เกิดความประทับใจ และมาอุดหนุนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ยอดขายของร้านค้าเพิ่มจากลูกค้าเดิมที่ซื้อมากขึ้น และจากลูกค้าใหม่ที่มาซื้อสินค้าที่ร้าน
เทคนิคการสร้างความแตกต่าง (ควรพิจารณาจากความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกันในแต่ละทำเล)
1. แตกต่างด้วย “สินค้าและบริการ”
เพิ่มสินค้าและบริการที่แตกต่างจากร้านอื่น โดยเลือกสินค้าที่ใหม่ มีคุณภาพได้มาตรฐาน และราคายุติธรรม
2. แตกต่างด้วยการ “ตกแต่ง”
การตกแต่งภายในร้านเน้นความสะดวกสบายในการเลือกซื้อสินค้า ใช้ชั้นวางสีสันสดใส เพิ่มบรรยากาศด้วยเสียงเพลงและ กลิ่นหอม ส่วนการตกแต่งภายนอกร้านเน้นสีสันสดใสแปลกตา หรือใช้วัสดุท้องถิ่นมาตกแต่งร้าน
3. แตกต่างด้วย “ความสัมพันธ์กับชุมชน”
ได้แก่ การเป็นศูนย์การในการกระจายข่าวสาร, การจัดกิจกรรมคืนกำไรให้ชุมชน และการทำบุญ บริจาคในโอกาสต่างๆ
การจัดการร้านค้าปลีก “8 ขั้นตอนสู่ความสำเร็จ”
ตอบลบ๑
เลือกทำเลที่ตั้ง
คำสั่งการเลือกสินค้า
กำไรและราคา
ผังร้านค้าและจัดเรียง
๒
การแต่งร้านเพิ่มเติม
ส่งเสริมการขายขื่อเสียง
สต็อกสินค้าพอเพียง
เลี่ยงซ้ำย้ำความแตกต่าง
.
samunchon
september 22, 2016
.
http://wp.me/p7UiOl-1G
มิตรแท้โชห่วย, โชห่วยไทย, พรเทพ สะดวกซื้อ, โชห่วย, โชฮ่วย, pornthep_showhuay, 粗货
.
มีประโยชน์มากค่ะ จะลองปรับใช้ดู
ตอบลบ